empty
 
 

Ultimate Oscillator พัฒนาขึ้นโดย Larry Williams ในปี 2528 และได้มีการอธิบายไว้ในนิตยสาร Technical Analysis of Stocks and Commodities ตัวบ่งชี้ตัวนี้สามารถเชื่อมโยงกับ oscillators แบบเดิมเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ แต่ Ultimate Oscillator นั้นเหนือกว่าตัวบ่งชี้อื่นๆด้วยข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์และความแรงของสัญญาณ โดยใช้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของช่วงระยะเวลาต่างๆกันสามเวลา

สูตรคำนวณ

กำหนด True Low หรือ TL ปัจจุบัน ซึ่ง TL ก็คือ - ขั้นต่ำสุดในปัจจุบันหรือราคาปิดก่อนหน้า

TL (i) = MIN (LOW (i) || CLOSE (i - 1))

คำนวณ Buying Pressure ปัจจุบัน ซึ่ง BP จะเท่ากับค่าความต่างระหว่างราคาปิดกับ True Low

BP (i) = CLOSE (i) - TL (i)

ได้ค่า True Range หรือ TR ซึ่งจะเป็นค่าความแตกต่างระหว่างHighกับLowในปัจจุบัน หรือค่าความต่างระหว่างHighกับราคาปิดก่อนหน้า หรือราคาปิดก่อนหน้ากับLowในปัจจุบันมากที่สุด

TR (i) = MAX (HIGH (i) - LOW (i) || HIGH (i) - CLOSE (i - 1) || CLOSE (i - 1) - LOW (i))

นับผลรวมตัวบ่งชี้ BP จากช่วงเวลาทั้งหมด

BPSUM (N) = SUM (BP (i), i)

คำนวณผลรวมตัวบ่งชี้ TR จากทั้งสามช่วงเวลา

TRSUM (N) = SUM (TR (i), i)

ระบุ Raw Ultimate Oscillator หรือ RawUO

RawUO = 4 * (BPSUM (1) / TRSUM (1)) + 2 * (BPSUM (2) / TRSUM (2)) + (BPSUM (3) / TRSUM (3))

คำนวณ Ultimate Oscillator หรือ UO

UO = ( RawUO / (4 + 2 + 1)) * 100, where


MIN -ตัวเลขที่น้อยที่สุด;

MAX - ตัวเลขที่มากที่สุด;

|| - logical OR;

LOW (i) - ราคาต่ำสุดของแถบปัจจุบัน;

HIGH (i) - ราคาสูงสุดของแถบปัจจุบัน;

CLOSE (i) - ราคาปิดของแถบปัจจุบัน;

CLOSE (i - 1) - ราคาปิดของแถบก่อนหน้า;

TL (i) - True Low;

BP (i) - Buying Pressure;

TR (i) - True Range;

BPSUM (N) - ผลรวมของตัวเลข BP ในช่วงเวลา N (N ที่มีค่าเท่ากับ 1 i = 7 แถบ; เมื่อ N = 2 i = 14 แถบ เมื่อ N = 3 i = 28 แถบ);

TRSUM (N) - ผลรวมของตัวเลข TR ในช่วงเวลา N (N ที่มีค่าเท่ากับ 1 i = 7 แถบ; เมื่อ N = 2 i = 14 แถบ เมื่อ N = 3 i = 28 แถบ);

RawUO - ตัวเลข Raw Ultimate Oscillator;

UO - ตัวเลข Ultimate Oscillator

วิธีการใช้งาน

อย่าลืมว่า Ultimate Oscillator นั้นใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค และจะมีการผันผวนในระดับตั้งแต่ 0% ถึง 100% โดยเส้นฐานของ Ultimate Oscillator นั้นก็คือตัวบ่งชี้ที่บอกว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไป/ขายมากเกินไป ถ้าตัวบ่งชี้แสดงตัวเลขมากกว่าระดับ 70 นั่นหมายความว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไปและจะมีการพลิกกลับของแนวโน้มตลาดในเร็วๆนี้ ส่วนในกรณีที่ตัวบ่งชี้ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 30 นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่ราคาจะเติบโตขึ้นในอนาคตอันใกล้

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยที่เรียกว่า ความหลงผิดของนักพนัน (Gambler’s Fallacy) ขณะที่ใช้วิธีการนี้โดยอาศัย Ultimate Oscillator (เช่นเดียวกับ oscillator ทางเทคนิคอื่นๆ)

Larry Williams แนะนำการเข้าถึงที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงขณะที่ใช้ตัวบ่งชี้ตัวนี้ แต่การเข้าถึงในลักษณะนี้ก็สัมพันธ์กับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในปัจจุบันเป็นอย่างมาก:

  • ถ้ามีค่าการเบนออกขาลงท่ามกลางการเติบโตของราคา และตัวบ่งชี้ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 50 หมายความว่าจำเป็นต้องเปิดสถานะขาย แต่ถ้าเป็นกรณีที่ราคาลดลงต่ำกว่าระดับ 30 ให้ปิดสถานะขาย;
  • ถ้ามีการเบนเข้าขาขึ้นท่ามกลางราคาที่ตกลง และตัวชี้วัดอยู่เหนือระดับ 50 ให้เปิดสถานะซื้อ แต่เมื่อไหร่ที่ราคาขึ้นไปสูงกว่าระดับ 70 ให้ปิดสถานะซื้อ
Ultimate Oscillator

ค่าพารามิเตอร์ Ultimate Oscillator ของInstaForex

fastperiod = 7

middleperiod = 14

slowperiod = 28

fastK = 4

middleK = 2

slowK = 1

ดาวน์โหลด


ย้อนกลับสู่รายการ
หากไม่สะดวกคุยในตอนนี้
ระบุคำถามไว้ได้ใน แชท.
Widget callback